ข่าวประชาสัมพันธ์

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำโครงการรวมใจสู้ภัยโควิด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด โดยนำอาหารและเครื่องดื่มไปมอบให้แก่โรงพยาบาลวิภาราม-ชัยปราการ โรงพยาบาลเอราวัณ 2 และศูนย์ช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ประสบภัย โควิด 19 หนองจอก

5 กรกฎาคม 2564 – บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) (ZIGA) ได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) เข้าอยู่ในทำเนียบกลุ่มบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน หรือ ESG Emerging List ปี 2564

นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) (ZIGA) เปิดเผยว่า สถาบันไทยพัฒน์ ประกาศให้ ซิก้า อินโนเวชั่น เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่เข้าอยู่ใน “ทำเนียบกลุ่มบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน” หรือ “ESG Emerging List” ด้วยการคัดเลือกจาก 824 หลักทรัพย์จดทะเบียน ในรอบการประเมินปี 2564

“ด้วยการกำหนดแผนกลยุทธ์และกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่จะส่งมอบประโยชน์ให้แก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) มีความยินดีที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน กลุ่ม ESG Emerging ปี 2564 และบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนของบริษัท ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งด้านบรรษัทภิบาลให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน”

นายศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ที่ซิก้า เราเชื่อว่าความยั่งยืนเกิดจากกระบวนการความคิดริเริ่มหรือสารตั้งต้น ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น คือ เหล็ก pre-zinc ซึ่งเป็นเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Product) ที่ลดกระบวนการใช้เคมี (Green Process) หรือไม่มีการชุบเคมีในกระบวนการ เป็นตัวอย่างการสร้างนวัตกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า”

ทั้งนี้ การจัดอันดับพิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่กันในกระบวนการประเมิน

สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG Emerging เป็นครั้งแรกในปี 2563 ขณะที่ การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป

การดำเนินธุรกิจและสั่งสมประสบการณ์กว่า 2 ทศวรรษของบริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กประเภท Pre-Zinc ภายใต้แบรนด์ ZIGA และท่อเหล็กร้อยสายไฟประเภท Pre-Zinc ภายใต้แบรนด์ DAIWA ทำตลาดภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ พร้อมได้รับการรับรองมาตรฐานอย่างหลากหลาย จนถึงการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai นั้นเดินหน้าด้วยวิสัยทัศน์และพันธกิจที่ต้องการสร้างสรรค์มูลค่าธุรกิจผ่านนวัตกรรม (Value Creation Through Innovation) 

ทั้งนี้ก่อนที่จะก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ‘มณฑา ทัสฐาน’ กรรมการบริหารด้านการตลาด บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หนึ่งใน 5 พี่น้องซึ่งเราเรียกว่า GEN1S ได้มาฉายภาพยุทธศาสตร์ของ ZIGA ในขวบปีนี้ เพื่อเดินหน้าเป็นรากฐานสู่ทศวรรษใหม่ที่จะถึงด้วยการมองหาธุรกิจที่มีอนาคต ซึ่งจะเป็น New S-Curve ต่อยอดจากฐานธุรกิจเดิมให้เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน

ก่อนจะเป็น ZIGA วันนี้

หากพูดถึง จุดเริ่มต้นของ ‘ZIGA’ เราเริ่มต้นธุรกิจด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยมีพี่ชายคนโต ‘ศุภกิจ งามจิตรเจริญ’ ถือว่าเป็นแม่ทัพที่รวมพลังพี่น้อง 5 คน ZIGA เริ่มก่อตั้งในปี 2541 ใช้ชื่อเดิมว่า บริษัท ไดว่า อินดัสตรี จำกัด เป็นผู้ผลิตท่อร้อยสายไฟ และอุปกรณ์มาตรฐานอเมริกา ด้านมาตรฐานความปลอดภัยในระบบท่อร้อยสายไฟและอุปกรณ์ในอาคารสูง โดยได้รับความไว้วางใจในโครงการสำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ ได้ขยายกลุ่มธุรกิจไปสู่ภาคการผลิตต่อเนื่อง โดยการแปรรูปเหล็กกัลวาไนซ์ (Galvanized) สำหรับโครงสร้างทั่วไปประเภททรงกลมภายใต้แบรนด์ ZIGAโดยวางตำแหน่งสินค้าเป็นสินค้าทดแทน มีคุณสมบัติกันสนิมได้ดี และพื้นผิวสวยงาม


บริษัทฯ แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ช่วงปี 2559 เพื่อปรับโครงสร้างทุน เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 180 ล้านบาทเป็น 260 ล้านบาท และล่าสุดมีทุนจดทะเบียน 369.9 ล้านบาท  

ZIGA มี 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ เหล็กกัลวาไนซ์สำหรับโครงสร้างทั่วไปประเภททรงกลม ภายใต้แบรนด์ ZIGA โดยวางตำแหน่งสินค้าเป็นสินค้าทดแทน มีคุณสมบัติกันสนิมได้ดีและพื้นผิวสวยงาม, ท่อร้อยสายไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ DAIWA 

ZIGA มองอนาคตสู่ทศวรรษที่ 

หากมองเป้าหมายในระยะยาว เราตั้งเป้าที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นช่าง ลูกค้า คู่ค้า ตลอดจนพนักงาน ด้วยวิสัยทัศน์ Steel for Better Life ด้วยการมุ่งตอบโจทย์ Pain Point ของช่าง ลูกค้า และคู่ค้า ด้วยการฟังความคิดเห็นข้อร้องเรียน เพื่อนำมาปรับปรุงสินค้าและบริการให้ดียิ่งๆขึ้นไป

ส่วนเป้าหมายในระยะใกล้ โดยเฉพาะปีนี้เราโฟกัสกับการขยายฐานไลน์ธุรกิจใหม่ที่ต่อยอด และสามารถสร้างพลังผนึก (Synergy) จากฐานธุรกิจเดิมกันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสินค้ากลุ่มเหล็ก และไม่ใช่เหล็ก (Steel & Non Steel) ทั้งในส่วนของการสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายเอง ในส่วนของเอาท์เล็ท ซึ่งเป็นร้านค้าของ ZIGA และต่อไปจะเป็นฮับของทำเลภาคตะวันออกนั้น เราตั้งเป้าที่จะเปิด 60 แห่งในปีนี้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับการคัดเลือกและพิจารณาถึงปัจจัยความเหมาะสมทางด้านต่างๆ ด้วย

นอกจากนี้ ZIGA ยังมีแผนที่จะขยายฐานโมเดลธุรกิจร้านค้าระบบสำเร็จรูป (i-Retail Modular System)ซึ่งถูกออกแบบและพัฒนามาสำหรับการสร้างร้านค้าสำเร็จรูป โดยเราจะยังคงดีไซน์เดิม แต่แปลงเป็นระบบการก่อสร้างแบบ Modular System ซึ่งผลิตสำเร็จรูปจากโรงงาน กับในส่วนของการขยายฐานธุรกิจสู่ตลาดเหล็กโครงสร้างเพื่อใช้ทำโรงเรือนกัญชง, กัญชาและพืชอื่นๆ อีกด้วย

ZIGA วางยุทธศาสตร์ ขึ้นแท่นแถวหน้าของอุตสาหกรรมเหล็ก

จากการวางยุทธศาสตร์องค์กรและยุทธศาสตร์แบรนด์ทำให้เราสามารถยืนหยัดในตลาดมาได้กว่าสองทศวรรษ และก้าวข้ามการเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) เนื่องจากเราเดินยุทธศาสตร์บนมุมมองของ ‘นวัตกรรม’ ซึ่งทะยานเหนือกว่าการมุ่งผลิตเหล็ก เป็นโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อบริษัท ‘ซิก้า อินโนเวชั่น’ 

ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ที่ใช้ ‘นวัตกรรม’ ขับเคลื่อน (InnovationInnovation-Driven Strategy) ประกอบด้วย

  • Innovation + Value Creation ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานมากกว่า 20 ปี และการขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม และการเพิ่มมูลค่าสินค้าเราจึงมุ่งวิจัย และพัฒนาสินค้านวัตกรรม (InnovativeProduct) โดยมุ่งเน้นเพิ่มมูลค่าสินค้าเหล็ก ด้วยเทคโนโลยีการป้องกันสนิม 
  • Product & Process Innovation นวัตกรรมที่ใช้กับผลิตภัณฑ์นั้นมิได้มาจากตัวผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่เรามองลึกไปถึงกระบวนการทำงาน กระบวนการพัฒนา ตลอดจนการใส่ใจองค์ความรู้มาจากความเข้าใจและใส่ใจในรายละเอียด ตลอดจนความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานานทำให้สินค้าที่ออกตลาดประสบความสําเร็จ
  • Branding & Brand Awareness เนื่องจาก ZIGA ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ อีกทั้งมุ่งสร้างแบรนด์สินค้าในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทให้มีความเข้มแข็งและเป็นที่รู้จักระดับ Top of Mind Brand ทําให้ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากช่าง ร้านค้าและผู้บริโภค
  • Business Intelligence (BI) ซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยสรุปภาพรวมของข้อมูลทางธุรกิจในหลายมิติเพื่อการจัดการโดยรวมทําให้บริษัทฯ สามารถผลิตและขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยสนับสนุนทางเลือกในการตัดสินใจและช่วยในการวางแผนทางธุรกิจ 
  • Opportunity to Grow ที่ผ่านมา ZIGA พยายามศึกษาตลาด เพื่อหาช่องว่างทางธุรกิจที่จะเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง และมุ่งมองหา New S-Curve ตัวใหม่ๆ เข้ามาที่อํานวยความสะดวก และเพิ่มการใช้งานให้กับลูกค้า เพื่อให้ ZIGA สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่อิงกับอุตสาหกรรมเหล็ก เนื่องจากเหล็กเป็นสินค้าทดแทน 

ZIGA มองนอกกรอบ  

ยอมรับว่ากรอบคิดเดิมๆของคนในอุตสาหกรรมนี้ ‘เหล็กคือเหล็ก’ เป็นสินค้าอุตสาหกรรมและเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) แบบน้ำตาล เกลือ ซึ่งคงที่ไม่มีความแตกต่างอะไร  แต่สำหรับ ZIGA เรามีมุมมองกับตนเองที่มีความแตกต่างกว่านั้นและเชื่อว่าZIGA เป็นมากกว่าผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กได้ ฉะนั้นเมื่อวางยุทธศาสตร์ในมุมมองของ ‘นวัตกรรม’ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ด้วยเทคโนโลยีการป้องกันสนิมที่เหมาะสมกับการใช้งานด้วยนิยามที่ว่า ‘ZIGA มีดีมากกว่าเหล็ก’ เราไม่อยากให้ติดกรอบว่า ZIGA ขายเพียงท่อเหล็กร้อยไฟ หรือท่อเหล็กอย่างเดียว 

การที่เราคิดว่า เราแสวงหา Niche Market และแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าหรือการหา Customer Pain Point จะไม่ทำให้เราติดกรอบ การที่เราคิดกว้างมากกว่าธุรกิจเหล็ก เพราะเราแสวงหาสิ่งที่แก้ไขปัญหาให้ลูกค้าเสมอ เช่น เราคิดกันว่า สมัยนี้มีคนต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจมากมาย รวมทั้งหลายคนก็อยากมองหา Second Career หรืออาชีพที่สอง นี่ก็ทำให้เรามองว่า ทำไมเราไม่แก้ไขปัญหาให้เขา ด้วยนำเสนอรูปแบบการเป็นเจ้าของกิจการในธุรกิจเหล็ก 

ปั้นโมเดลธุรกิจใหม่ 

การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่เรามองที่การต่อยอด ZIGA โดยมีแนวคิดที่จะขายแฟรนไชส์ (Franchise) เหล็ก เพราะเรามองเห็นโอกาสซึ่งเหล็กเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่ก่อสร้างขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ทุกวันนี้ เราใช้เหล็กเหมือนใช้วัสดุอื่นๆ ทั่วไปเลย ดังนั้นการขายเหล็กแบบแฟรนไชส์ จึงเท่ากับเป็นการหาพันธมิตรทางการค้าได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้จะไม่กระทบกับช่องทางตัวแทนที่มี เนื่องจากเหล็กเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ถือเป็นการขับเคลื่อนตลาดร่วมกัน เพราะถ้าหากสินค้าขาดในอนาคต ก็สามารถไปเอาสินค้าจากร้านเอ๊าท์เล็ต ของ ZIGA ได้ก่อน ซึ่งถือเป็นการช่วยพันธมิตรให้เติบโตไปด้วยกันและช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้หมุนเวียนได้อีกด้วย 

นอกจากนี้ ลูกค้าเราแยกกลุ่มย่อย ออกเป็นหลายแบบ ทำให้เราต้องตอบสนองทุกความต้องการ และเพื่อคัดสรร แก้ปัญหาลูกค้าได้ตรงจุด ดังนั้นเราจึงสร้างคอมมูนิตี้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ZIGA ภายใต้กรอบ

“Work in Detail  ยิ่งย่อย ยิ่งชัดเจน ยิ่งแก้ตรงจุด”

ZIGA คว้าโอกาส-รับกระแส กัญชง กัญชา’ บูม  

ภายหลังประกาศปลดล็อคอนุญาตให้ปลูกกัญชาและกัญชงได้ ZIGA เรามองเห็นโอกาสจากจุดนี้ ด้วยความพร้อมของผลิตภัณฑ์เหล็กกัลวาไนซ์และทีมงานคุณภาพในการให้บริการลูกค้าล่าสุด ZIGA ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงกับพันธมิตรซึ่งมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการปลูกกัญชาและกัญชง เพื่อการผลิตทางการแพทย์ ในลักษณะของ ‘Smart Farm’ ขณะที่เรามีความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างโรงเรือนจึงนับเป็นการผนึกพลังและเป็นจุดแข็งในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมตามเป้าหมายและหวังจะสร้างความจดจำ ‘หากคิดจะสร้างโรงเรือนกัญชา-กัญชงต้องคิดถึง ZIGA’  

ที่มา marketplus.in.th

คุณ ฐิติพร เขียวยวง CFO บริษัทฯได้เข้าร่วมอบรม หลักสูตร Crisis Financial Officer เพื่อเพิ่มขีดศักยภาพผู้บริหารระดับสูงในการรับมือกับโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยหลักสูตร เป็นความร่วมมือของบริษัท ตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย MAIและสมาคมจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย MAI A

TOP