จากเด็กหนุ่ม…มนุษย์เงินเดือน เคยทำงานเป็น sales executive ด้านอุตสาหกรรมเหล็ก ในช่วงสั้นๆ ก่อนต้องมารับกิจการครอบครัว เนื่องจากคุณพ่อ คุณแม่ เสียชีวิต ซึ่งตอนนั้น บริษัทไดว่า มีรายได้เดือนละแค่ 3 แสนบาท พร้อมกับภาระหนี้สิน …ภารกิจแรกของเขาคือ ต้องชำระหนี้ของบริษัทก่อน และหาเงินลงทุนต่อ ซึ่ง “ศุภกิจ” เข้ามาดำเนินการ ผลิตท่อร้อยสายไฟ ภายใต้แบรนด์ “ไดว่า”เพียงผู้เดียว เพื่อดูแลบริษัทและน้องๆ ซึ่งยังไม่จบการศึกษา
“ศุภกิจ” รับผิดชอบทั้งในด้านดูแลการผลิตสินค้า และการขาย และสามารถประกอบกิจการเป็นไปด้วยดี จนสามารถขยับขยายจากการเช่าโกดัง เป็น factory house อยู่ในย่านพระสมุทรเจดีย์ … ด้วยความสามารถและวิสัยทัศน์ของ “ศุภกิจ” ในการมองเห็นธุรกิจใหม่เสมอ และได้พัฒนาบริษัทฯ นำนวัตกรรม เหล็กป้องกันสนิม pre-zinc หรือเหล็ก galvanized มาสร้างแบรด์ “ซิก้า” เหล็กโครงสร้าง (Structural steel) ทำให้บริษัทฯมียอดขายโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดทุกปี
“ศุภกิจ” เริ่มชักชวน พี่น้องทั้งหมด ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานหลากหลาย มาสร้างธุรกิจให้เติบโตร่วมกัน ซึ่งพี่น้องรวม “ศุภกิจ” มีทั้งหมด 5 คน ภายใต้การนำองค์กรของ “ศุภกิจ” บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) เติบโตอย่างต่อเนื่องจนสามารถพัฒนาเป็นโรงงานผลิตสินค้าระดับมาตรฐานอเมริกา (UL) และส่งออกต่างประเทศ บนพื้นที่มากกว่า 12 ไร่ และมียอดขายเติบโตทุกปี ซึ่งต่างจากตอนที่ “ศุภกิจ” รับกิจการมาจากเดือนละไม่ถึง 3 แสนบาท
บริษัทฯเติบโตท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งภายใต้การนำองค์กรโดย “ศุภกิจ งามจิตรเจริญ” บริษัทสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิสัยทัศน์ การพัฒนาประสบการณ์การทำงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งได้รับรางวัลมากมาก เช่น Thailand Trusted Mark, Logistics, Supply Chain, Human Capital Management for Entrepreneur, MDICP จากกระทรวงอุตสาหกรรมและอื่นๆ
…ศุภกิจ เล่าถึงหลักคิดในการบริหารจัดการของเขา ซึ่งเป็นที่มาของความสำเร็จของ ZIGA ว่า เขายึดหลักความ “พอเพียง” ตามแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งในแง่ของการใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท และใช้จ่ายอย่างพอเพียง ซึ่งความพอเพียงของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป บางวันเขาก็โดยสารด้วยรถเมล์ หรือทานข้าวแกงร่วมกับพนักงานหรือผู้บริหารในออฟฟิศ และให้ความสำคัญกับครอบครัว โดยจะกลับบ้านพักผ่อน ไม่เกิน 3 หรือ 4 ทุ่ม โดยในส่วนของการขยายการลงทุนของ ZIGA จะเป็นไปในลักษณะที่ Conservative ซึ่งในนิยามของ “ศุภกิจ” ไม่ได้หมายความว่าอนุรักษ์นิยม หรือไม่กล้าที่จะขยายการลงทุนเลย แต่เป็นการขยายการลงทุนที่มีแผนรองรับเพียงพอ และไม่การพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะ “ศุภกิจ”เคยผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายในช่วงวัยเด็ก ซึ่งครอบครัวของเค้าเคยอยู่ในยุคที่ “รุ่งเรือง” มีบ้าน มีรถ มีพนักงานเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากเจอมรสุมเศรษฐกิจยุค “ฟองสบู่” กิจการที่รุ่งเรืองในยุคของคุณพ่อ ก็โดนเจ้าหนี้ตามยึด ท้ายที่สุดครอบครัวเขาต้องย้ายไปเช่า “ห้องแถว” นั่นจึงเป็นที่มาซึ่งทำให้ “ศุภกิจ” ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท อยู่อย่าง “พอเพียง” ทำธุรกิจอย่าง”พอเพียง” และเป็นที่มาซึ่งทำให้ ZIGA เติบโตอย่างแข็งแกร่งจนถึงทุกวันนี้
ที่มา www.share2trade.com
You must be logged in to post a comment.